วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2559

ความสุขที่แท้จริง

...คนเราทุกข์ไม่สร่างก็เพราะมัวแต่คิดถึงแต่ตัวเอง เพราะเหตุนี้ใช่ไหมชายชราจึงเตือนสติ มิเนโกะ อิวาซากิ ว่า "คนที่คิดถึงแต่ตัวเองย่อมอยากตายทั้งนั้น"...

มิเนโกะ อิวาซากิ เป็นอดีตเกอิชาที่มีชื่อเสียงทั่วโลกจากหนังสือเรื่อง Geisha และยังเป็นที่มาของหนังสือยอดนิยมเรื่อง Memoirs of a Geisha ของอาเทอร์ โกลเดน

ในวัยเด็กนั้นเธอมีชีวิตที่ลำบากแสนเข็ญ เนื่องจากเป็นเด็กกำพร้าและไร้การศึกษา ลุงจึงนำเธอไปขายให้แก่สำนักเกอิชาตั้งแต่ยังเล็ก ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยเคราะห์กรรม นอกจากสูญเสียน้องชายที่รักแล้ว เธอยังสูญเสียคนรักที่เป็นทุกอย่างในชีวิต

แล้ววันหนึ่งเธอก็ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง เธอเดินเข้าไปในป่าท่ามกลางพายุหิมะและนั่งรอความตายอันหนาวเหน็บ แต่ชายชราผู้หนึ่งช่วยชีวิตเธอเอาไว้

ชายชราพูดประโยคหนึ่งซึ่งเตือนใจให้เธอได้คิด "คนที่คิดถึงแต่ตัวเองย่อมอยากตายทั้งนั้น" ชายชราขอให้เธอกลับเข้าไปในเมือง และทำดีกับผู้อื่นวันละคน หลังจากนั้นถ้าเธอยังอยากตาย เขาจะช่วยเธอให้สมปรารถนา

เธอทำตามที่ชายชราแนะนำ เธอเริ่มต้นด้วยการซื้อหนังสือให้เด็กยากจนคนหนึ่ง จากนั้นเธอก็เล่านิทานให้เด็กฟังวันละคนสองคน ต่อมาเธอเริ่มแต่งนิทานเอง นับแต่วันนั้นเธอไม่เคยกลับเข้าไปในป่าแห่งนั้นอีกเลย

ในยามที่เราประสบเคราะห์กรรม เรามักคิดว่าโลกนี้โหดร้ายกับเราเป็นอย่างยิ่ง "ทำไมถึงต้องเป็นฉัน ?" ทุกคนอดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามนี้ราวกับว่ามีฉันคนเดียวที่โชคร้ายอย่างนั้น แต่ทันทีที่เรามองพ้นตัวเองออกไป จะพบว่าคนที่ทุกข์อย่างเราก็มีไม่น้อย และคนที่ทุกข์ยิ่งกว่าเรายังมีอยู่อีกมากมาย

การรับรู้ว่ายังมีคนอีกมากมายที่ทุกข์ยิ่งกว่าเรา ช่วยให้เราทานทนเคราะห์กรรมได้มากขึ้น แต่ดียิ่งกว่านั้นก็คือการก้าวพ้นจากโลกของตัวเอง ออกไปช่วยเหลือคนเหล่านั้น การได้ช่วยเหลือผู้อื่นไม่เพียงช่วยให้เราหมกมุ่นกับความทุกข์ของตัวเองน้อยลงเท่านั้น หากยังทำให้จิตใจได้รับความสุข สุขเพราะรอยยิ้มของผู้ที่ได้รับไมตรีจากเรา และสุขเพราะได้พบว่าชีวิตของเรายังมีคุณค่าอีกมาก หาได้ไร้ค่าอย่างที่เคยเข้าใจไม่

"ผู้ให้ความสุขย่อมได้รับความสุข" พุทธภาษิตนี้คือความจริงที่คงทนต่อการพิสูจน์เสมอ

หญิงผู้หนึ่งซึ่งเป็นแพทย์เด็กได้สูญเสียสามีอย่างปัจจุบันทันด่วน เธอโศกเศร้ามากจนไม่มีใจทำอะไรทั้งสิ้นแม้จะกลับไปที่ทำงานหลังเสร็จสิ้นพิธีศพ เธอก็ได้แต่นั่งจับเจ่าอยู่ในห้อง ไม่ออกไปหาคนไข้ และไม่พูดไม่จากับใคร หัวหน้าและเพื่อน ๆ ในแผนกกุมารเวชพยายามปลอบโยนและให้กำลังใจ แต่ก็ไร้ผล

ผ่านไปสองสัปดาห์เธอก็ยังไม่สร่างซาจากความโศกเศร้าและความเงียบงัน ในที่สุดหัวหน้าก็คิดวิธีหนึ่งขึ้นมาได้ เขานำทารกคนหนึ่งที่ป่วยหนักไปวางไว้บนโต๊ะทำงานของเธอ พร้อมกับบอกว่าทารกคนนี้ต้องการการดูแลรักษา แล้วเขาก็เดินออกจากห้องไป

ทีแรกเธอก็นั่งเฉย แต่ไม่นานทารกก็เริ่มร้องไห้ เธอยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติง แต่เมื่อทารกร้องดังขึ้น เธอก็อยู่เฉยไม่ได้ ลุกขึ้นมาดูทารก และพบว่าจำต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมและป้อนนม เสร็จแล้วเธอก็กลับไปจับเจ่าเหมือนเดิมอีก แต่ทารกไม่ยอมให้เธอทำเช่นนั้นได้นาน เธอจึงต้องลุกขึ้นมาดูแลเด็กเป็นระยะ ทีนี้ไม่ใช่แค่เปลี่ยนผ้าอ้อม ป้อนนม แต่เยียวยาอาการเจ็บป่วยของเด็กน้อยด้วย

วันรุ่งขึ้นเมื่อกลับมาที่โรงพยาบาล สิ่งแรกที่เธอทำคือถามว่าทารกคนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เธอเข้าไปตรวจดูอาการของทารกถึงเตียง และพบว่ายังมีทารกอีกหลายคนที่รอคอยการดูแลรักษาจากเธอ

วันนั้นทั้งวันเธอจึงง่วนอยู่กับการรักษาเด็ก วันถัดไปก็เช่นเดียวกัน เธอไม่มีเวลาที่จะเจ่าจุกกับความทุกข์อีกต่อไป ไม่นานเธอก็คลายจากความโศกเศร้า และกลับมาเป็นคนเดิมที่แย้มยิ้มหัวเราะได้

คนเราทุกข์ไม่ใช่เพียงเพราะว่าประสบกับสิ่งไม่สมหวังเท่านั้น หากยังเป็นเพราะเราเอาใจไปหมกมุ่นเจ่าจุกกับความไม่สมหวังด้วย ยิ่งหมกมุ่นก็ยิ่งทุกข์ แต่เมื่อใดที่ถอนใจออกไปจดจ่อกับสิ่งอื่นแทน ความทุกข์ก็จะบรรเทาลง

การช่วยเหลือผู้อื่นเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถดึงจิตออกไปจากความทุกข์ได้ อีกทั้งยังมีความสุขเป็นรางวัลตอบแทน

คนเราทุกข์ไม่สร่างก็เพราะมัวแต่คิดถึงแต่ตัวเอง เพราะเหตุนี้ใช่ไหมชายชราจึงเตือนสติมิเนโกะอิวาซากิว่า "คนที่คิดถึงแต่ตัวเองย่อมอยากตายทั้งนั้น"

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้ารักตัวเองจริงก็อย่าลืมนึกถึงผู้อื่นให้มาก ๆ

ที่มา fwd mail

บางทีความสุขที่แท้จริงของคนเรา อาจไม่ได้เกิดจากตัวเราเอง


แต่เกิดจากการได้มีส่วนร่วมในการสร้างความสุขในชีิวิตของผู้อื่น :)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น